วันที่นำเข้าข้อมูล 25 ธ.ค. 2562
วันที่ปรับปรุงข้อมูล 29 พ.ย. 2565
ปี |
จำนวนนักท่องเที่ยวจากกลุ่มประเทศเป้าหมายที่เดินทางมาไต้หวัน (คน) |
จำนวนนักท่องเที่ยวไต้หวันที่เดินทาง ไปยังกลุ่มประเทศเป้าหมาย (คน) |
2558 |
1,551,937 |
2,096,196 |
2559 |
1,789,503 |
2,233,784 |
2560 |
2,284,382 |
2,474,412 |
2561 |
2,594,765 |
2,791,608 |
ข้อมูลจากเอกสาร The New Southbound Policy: A Practical Approach Moving Full Steam Ahead
เมื่อปี 2560 ไต้หวันได้ริเริ่มวางแนวทางกระตุ้นจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ อาทิ ญี่ปุ่น เกาหลี กลุ่มประเทศเอเชียใต้ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อทดแทนจำนวนนักท่องเที่ยวจากจีนที่มีอัตราการลดลงอย่างต่อเนื่อง ด้วยการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวเชิงวิถีชีวิตและวัฒนธรรมทั้งในแบบดั้งเดิมและแบบผสมผสาน ผลจากรายงานสถิตินักท่องเที่ยวต่างชาติพบว่า จำนวนนักท่องเที่ยวเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นมากที่สุดคิดเป็นร้อยละ 19.26 รองลงมาคือนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.30 ในจำนวนนี้นักท่องเที่ยวจำนวนร้อยละ 59 พึงพอใจในทัศนียภาพของแหล่งท่องเที่ยวมากที่สุด และร้อยละ 55 พอใจในด้านอาหาร ด้านการใช้จ่ายในการท่องเที่ยวพบว่า นักท่องเที่ยวร้อยละ 82 ใช้จ่ายไปกับอาหารที่ตลาดกลางคืน
ในปี 2561 นอกเหนือจากการยกเว้นการตรวจลงตราวีซ่าให้กับกลุ่มประเทศเป้าหมายบางประเทศตามนโยบายมุ่งใต้ใหม่ ไต้หวันยังมีการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายใต้แนวคิด “Salam Taiwan” โดยร่วมกับนักแสดงชื่อดังชาวมาเลเซีย Ms. Mira Filzah เจาะกลุ่มตลาดนักท่องเที่ยวชาวมุสลิมในมาเลเซียและบรูไน ปีนั้นรายงานจาก Global Muslim Travel Index (GMTI) จัดให้ไต้หวันอยู่ในอันดับที่ 5 ในการเป็นเมืองท่องเที่ยวสำหรับชาวมุสลิม ในกลุ่มประเทศที่ไม่ใช่มุสลิม
Ms. Mira Filzah นักแสดงชาวมาเลเซียในสื่อประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวไต้หวัน
นอกจากนี้ กระทรวงการคมนาคมและการสื่อสารไต้หวัน (Ministry of Transportation and Communications) ยังได้ดำเนินโครงการเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวกับกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวในระยะสั้น “Take the High-Speed Rail to Tour Taiwan - Two people travel together, one person travels for free discount program” การเดินทางท่องเที่ยวโดยรถไฟฟ้าความเร็วสูงไปยังแหล่งท่องเที่ยวเชิงศิลปะและวัฒนธรรมรอบเกาะไต้หวัน เดินทางสองคน จ่ายเพียงหนึ่งคน อีกทั้งยังมีการสร้างความร่วมมือกับทางบริษัทจัดนำเที่ยว เช่น KKday, KLOOK และ Lion Travel
ในปี 2562 ไต้หวันหวังว่าจะมีรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวน 26.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 824.6 พันล้านบาท) โดยเน้นส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และยังคงดำเนินโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวด้วยรถไฟความเร็วสูงต่อเนื่องจากปี 2561 “Enjoying Arts and Culture Programs - Two People Go Together, One Person Gets In For Free” และให้สิทธิพิเศษกับนักท่องเที่ยวต่างชาติในการเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมหลายแห่งได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เช่น National Theater, National Concert Hall, Taichung National Theater, Kaohsiung Weiwuying และ National Center for the Arts เป็นต้น
ส่วนในปี 2563 ไต้หวันยังคงต้องการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวจากกลุ่มประเทศเป้าหมาย โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากอินเดียซึ่งชื่นชอบการล่องเรือสำราญ เนื่องจากไต้หวันเป็นที่นิยมในการล่องเรือสำราญอันดับ 2 ของเอเชีย จึงมีการวางแผนกระตุ้นการท่องเที่ยวเจาะกลุ่มประชากรที่มีรายได้สูงในประเทศอินเดียที่ชื่นชอบการล่องเรือสำราญ และตั้งเป้าให้มีจำนวนชาวอินเดียเดินทางเข้ามาไต้หวันเพิ่มขึ้นร้อยละ 20 ภายในปี 2563
ข้อมูลจาก
https://english.ey.gov.tw/News3/9E5540D592A5FECD/a86221f5-7b5e-4df8-91b5-312189e7c89a
www.taiwannews.com.tw/en/news/3477681
https://admin.taiwan.net.tw/upload/contentFile/auser/b/annual_2017_htm/en/e02.html
https://eng.taiwan.net.tw/m1.aspx?sNo=0029816
www.ttgasia.com/2019/02/12/taiwan-has-2-2020-vision-for-indian-market/
ขอบคุณภาพปกจาก
www.taipei-101.com.tw