เนื่องด้วยปัจจุบัน รัฐบาลและภาคเอกชนไต้หวันให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์ธรรมชาติเป็นอย่างมาก ศูนย์ข้อมูลธุรกิจสัมพันธ์จึงได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับแผนการสนับสนุนและพัฒนานโยบายพลังงานสีเขียวของไต้หวัน โดยจะนำเสนอเป็นบทความ 3 ตอน เพื่อเสนอข้อมูลให้แก่ผู้สนใจ

     นโยบายปลอดนิวเคลียร์ของรัฐบาลไต้หวัน เป็นนโยบายที่ผลักดันให้เกิดพลังงานสีเขียวเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าแทนโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ซึ่งรัฐบาลไต้หวันคาดว่านโยบายปลอดนิวเคลียร์จะเกิดขึ้นจริงภายในปี 2568 โดยจะนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่าง ๆ เข้ามาช่วยพัฒนานโยบายดังกล่าวอีกด้วย

     การไฟฟ้าไต้หวันมีโครงการลงทุนพัฒนาพลังงานสีเขียวด้วยงบประมาณถึง 21,000 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน ซึ่งจะเป็นโครงการผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ระยะสั้นในไต้หวัน เช่น โครงการ "แปลงโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งที่ 3 ให้กลายเป็นพลังงานสีเขียว" และ "แผนปรับปรุงโรงงานไฟฟ้าพลังงานความร้อนให้กลายเป็นพลังงานสีเขียว" ซึ่งจะสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้  ปีละ 130 ล้านยูนิต  

     การไฟฟ้าไต้หวันยังได้วางแผนว่า ในระยะ 2 ปี ต้องผลิตกระแสไฟฟ้าได้ 1520 MW และจะส่งเสริมให้มีการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาอาคารต่าง ๆ อย่างน้อย 41 จุด เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ด้วย โดยจะทำให้นิคมอุตสาหกรรมจางปินที่จางฮั่ว ภาคกลางของไต้หวัน กลายเป็นโรงงานผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ใหญ่ที่สุดในไต้หวันภายในปี 2563

      นอกจากนี้ ไต้หวันยังมีนโยบายติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้าอัจฉริยะเพื่อประหยัดพลังงานจำนวน 1000 ครัวเรือนภายในปี 2560 และจะเพิ่มขึ้นเป็น 200,000 ครัวเรือนภายในปี 2561 เมืองซินจู๋ ที่เป็นเมืองแห่งเทคโนโลยีของไต้หวันและเป็นที่ตั้งของ Hsin Chu Science Park  ฐานการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำคัญระดับโลกของไต้หวัน ก็ได้ตั้งเป้าหมายพัฒนาเมืองให้กลายเป็นเมืองแห่งพลังงานแสงอาทิตย์แห่งแรกในไต้หวัน โดยให้ประชาชนในเขตติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาในสถานที่ต่าง ๆ อาทิ หลังคาบ้าน หลังคาโรงเรียนหรือหลังคาโรงงาน โดยมีเงินกู้ช่วยเหลือพิเศษสำหรับอาคารที่อยู่อาศัยรายละไม่เกิน 600,000 ดอลลาร์ไต้หวัน บริษัทห้างร้านรายละไม่เกิน 10 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน ส่วนผู้ประกอบการโซลาร์เซลล์รายละไม่เกิน 12 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน ซึ่งเป็นมาตรการส่งเสริมการใช้พลังงานสีเขียวที่ดีที่สุดในไต้หวัน  

      Green Trade Project Office, Ministry of Economic Affairs (GTPO) ให้ข้อมูลด้วยว่า จากรายงาน Emerging Energy Industry Yearbook, IEK ปี 2559 ไต้หวันได้ผลิตโซล่าเซลล์เป็นอันดับ 2 ของโลก ซึ่งอัตราการผลิตโซล่าเซลล์ประเทศต่าง ๆ ในปี 2559 ได้แก่ จีนร้อยละ 57/ ไต้หวันร้อยละ 14/ มาเลเซียร้อยละ 7.5/ ญี่ปุ่นร้อยละ 3.5/ ไทยร้อยละ 3/ เกาหลีใต้ร้อยละ 2.5/ อื่น ๆ ร้อยละ 12.5 ตามลำดับ

      ตัวอย่างพลังงานสีเขียวอื่นที่ไม่ใช่พลังงานแสงอาทิตย์ อาทิ บริษัท Taiwan Sugar Corporation ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำตาลรายใหญ่ในไต้หวันและประกอบกิจการด้านฟาร์มเลี้ยงสุกรรายใหญ่ที่สุดในไต้หวัน มีโครงการทุ่มงบประมาณ 7,000 ล้านดอลลาร์ไต้หวันปรับปรุงฟาร์มเลี้ยงสุกรจำนวน 18 แห่งทั่วประเทศ ให้เป็นฟาร์มเลี้ยงสุกรที่นำเอามูลสุกรมาผลิตกระแสไฟฟ้าและประหยัดน้ำตามนโยบายพลังงานสีเขียวของรัฐบาล

      บริษัทจะทำการทดลองที่ฟาร์มเลี้ยงสุกรจำนวน 30,000 ตัว ที่จังหวัดผิงตง ภาคใต้ของไต้หวัน โดยใช้พื้นที่ 16 เฮกตาร์ ผลิตกระแสไฟฟ้าได้ 300 กิโลวัตต์/ปี หากได้ผลเป็นที่น่าพอใจก็จะขยายโครงการออกไปอีก 6 ฟาร์ม เลี้ยงสุกรจำนวน 130,000 ตัว หรือเกือบครึ่งหนึ่งของจำนวนสุกรที่เลี้ยงในไต้หวันทั้งหมด โดยจะสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ 2.5 เมกะวัตต์ หรือเพียงพอสำหรับผู้คนจำนวน 2,300 คน ใช้ในเวลา 1 ปี

      นอกจากนี้ ยังลดปริมาณการใช้น้ำได้อีกอย่างน้อยร้อยละ 83 และการพัฒนาฟาร์มเลี้ยงสุกรในลักษณะดังกล่าวจะมีระบบป้องกันโรคระบาดได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

     สามารถดูข้อมูลหน่วยวัดทางไฟฟ้าเพิ่มเติมได้ที่ : http://www.stable.co.th/index.php?lay=show&ac=article&Id=539181775&Ntype=17

      โปรดติดตาม รู้ลึกพลังงานสีเขียวของไต้หวัน (ตอนที่ 2)