ไต้หวันตั้งอยู่ระหว่างทะเลแปซิฟิกกับช่องแคบไต้หวัน โดยทางทิศตะวันตกของเกาะไต้หวันและมณฑลฝูเจี้ยนของจีนมีระยะทางห่างกันประมาณ 200 กิโลเมตร ทิศใต้ของไต้หวันห่างจากฟิลิปปินส์ประมาณ 250 กิโลเมตร ประกอบด้วย เกาะหลัก ๆ ได้แก่ เกาะไต้หวัน หมู่เกาะเผิงหู (Penghu) จินเหมิน (Kinmen) และหมาจู่ (Matsu) และเกาะเล็กอื่น ๆ อีกจำนวนหนึ่ง โดยมีพื้นที่ทั้งหมด 36,193.62 ตารางกิโลเมตร เป็นเกาะทอดยาวจากเหนือสู่ใต้ โดยมีแนวเขาตั้งอยู่ที่ส่วนกลางของเกาะ โดยระหว่างเกาะจินเหมินกับมณฑลฝูเจี้ยนมีระยะทางห่างกันเพียงประมาณ 2.3 กิโลเมตร

(ขอขอบคุณข้อมูลจาก เว็บไซต์ : www.ey.gov.tw/state/News_Content3.aspx?n=690B370D978A0943&s=C26FDDD8B7870584)

     เนื่องจากภูมิประเทศที่เป็นเกาะ ไต้หวันจึงได้มีแผนผลักดันแหล่งผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานนอกชายฝั่งโดย Green Trade Project Office (GTPO) กระทรวงเศรษฐการไต้หวัน ให้ข้อมูลว่า ไต้หวันมีแหล่งผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานลมนอกชายฝั่งที่ดีที่สุดในโลก 16 แห่งจาก 18 แห่งทั่วโลก

     จากการสรุปข้อมูลล่าสุดในเดือน พ.ย 2560 โดยเว็บไซต์ Thousand Wind Turbines Project ที่จัดตั้งโดย  กระทรวงพลังงาน ได้ให้ข้อมูลว่า ปัจจุบันไต้หวันมีแหล่งผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานลมทั้งบนบกและนอกชายฝั่งรวมทั้งหมด 30 แห่ง (บนบก) ใน 10 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเถาหยวน จังหวัดซินเป่ย จังหวัดซินจู๋ จังหวัดเหมียวลี่ จังหวัดไถจง จังหวัดจางฮว่า จังหวัดหยุนหลิน จังหวัดไถหนาน จังหวัดผิงตงและเกาะเผิงหู โดยมีกังหันผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานลมบนบกรวมทั้งสิ้น 347 ตัว / กังหันเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้านอกชายฝั่งรวมทั้งสิ้น 2 ตัว ซึ่งจะผลิตกระแสไฟฟ้าได้รวมทั้งสิ้น 67,694 ล้านวัตต์

     โดยไต้หวันตั้งเป้าหมายว่าภายในปี 2568 จะสามารถติดตั้งอุปกรณ์ผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่ง ที่มีกำลังผลิตได้ 3 GW ซึ่งจะสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้เป็น 2 เท่าของโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งที่ 3 ภายในปี 2568

     ปัจจุบันมีผู้ประกอบการทั้งในไต้หวันและต่างประเทศได้แสดงความสนใจลงทุนติดตั้งกังหันเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้านอกชายฝั่งรวมทั้งสิ้น 20 โครงการ สภาบริหารจึงได้เตรียมแผนนำร่องการให้สินเชื่อร่วมแก่ผู้ประกอบการด้านการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานลมนำร่องนอกชายฝั่ง 3 โครงการ (ยังไม่ได้ระบุว่าโครงการใด) คาดว่าต้องให้สินเชื่อเป็นจำนวน 10,000 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน โดยในระยะแรกจะระดมสถาบันการเงินหลายแห่งในไต้หวันร่วมกันให้สินเชื่อและจะติดตั้งอุปกรณ์ผลิตกระแสไฟฟ้า 358 MW ซึ่งต้องใช้เงินลงทุนประมาณ 60,000 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน 

     อย่างไรก็ดี คณะอนุกรรรมการพิจารณาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม กระทรวงสิ่งแวดล้อมไต้หวันจะต้องพิจารณาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของโครงการทั้งหมด ซึ่งขณะนี้ ได้พิจารณาแล้วเป็นครั้งที่ 2 รวมทั้งสิ้น 9 โครงการ จากจำนวน 20 โครงการ และพบว่าภายในปี 2568 จะสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้เพียง 10.20 GW (1 G = 1,000 ล้านวัตต์) มากกว่าเป้าหมายที่กระทรวงเศรษฐการไต้หวันได้ตั้งไว้เพียง 3.5 GW

     ในการพิจารณาดังกล่าว คณะอนุกรรรมการได้ให้ความเห็นชอบเพียง 2 โครงการ โดยเป็นโครงการของบริษัทจากแคนาดา ทั้ง 2 โครงการ ซึ่งกระทรวงสิ่งแวดล้อมไต้หวัน ได้ให้คำมั่นว่าจะจัดตั้งคณะอนุกรรมการดูแลผลกระทบสิ่งแวดล้อมจำนวน 15 คน โดยให้คนในพื้นที่ เข้าร่วมด้วยอย่างน้อย 1 ใน 3 และการติดตั้งจะใช้เทคนิคที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้านเสียง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การติดตามตรวจสอบผลกระทบต่อปลาวาฬในบริเวณดังกล่าว นอกจากนี้ ก่อนสิ้นสุดสัมปทาน 1 ปี บริษัทที่ได้รับสัมปทานจะต้องดำเนินการทุกอย่างให้สอดคล้องกับกฎหมายอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของไต้หวัน ซึ่งทั้ง 2 โครงการ จะสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ 1,200 ล้านวัตต์

     ส่วนที่เหลืออีก 7 โครงการ ยังต้องเสนอเอกสารเพิ่มเพื่อรอการอนุมัติแผนการลงทุนผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานลมนอกชายฝั่ง ได้แก่

            1. บ.จากประเทศเดนมาร์ก สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ 570 ล้านวัตต์

            2. บ.จากประเทศเดนมาร์ก สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ 613 ล้านวัตต์

            3. บ.จากประเทศเดนมาร์ก สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ 598 ล้านวัตต์

            4. บ.จากประเทศเดนมาร์ก สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ 642.5 ล้านวัตต์

            5. บ. Macquarie Group ร่วมมือกับ บ. Swancor Holding Co Ltd สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้โครงการละ 828 ล้านวัตต์

            6. บ. Macquarie Group ร่วมมือกับ บ. Swancor Holding Co Ltd สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้โครงการละ 828 ล้านวัตต์

            7. บ. Macquarie Group ร่วมมือกับ บ. Swancor Holding Co Ltd สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้โครงการละ 828 ล้านวัตต์

     โดยทุกโครงการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานลมนอกชายฝั่งอยู่ในจังหวัดจางฮว่า ไต้หวันจะมีการลงทุนรวมทั้งสิ้นถึง 1.192 ล้านล้านดอลลาร์ไต้หวัน ผลิตกระแสไฟฟ้าได้รวม 23,950 ล้านวัตต์/ปี สนองไฟฟ้าให้แก่ครัวเรือนในไต้หวันได้ 6.59 ล้านครัวเรือน/ปี

     นอกจากนี้ สำนักข่าว Taipei Time ได้ให้ข้อมูลว่า บริษัท Taiwan Power Co. มีแผนลงทุนกว่า 2.5 พันล้านดอลลาร์ไต้หวัน เพื่อสร้างกังหันผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานลมบนบกเพิ่มอีกจำนวน 11 ตัวใน 3 แห่ง บนเกาะเผิงหู ทั้งยังจะเพิ่มกำลังการผลิตกระแสไฟฟ้าจาก 10.2 MW เป็น 43.2MW โดยคาดว่า จะติดตั้งเสร็จภายในปี ค.ศ. 2020 (ปัจจุบันบนเกาะเผิงหูมีกังหันผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานลมบนบกรวม 14 ตัว) โดยแผนการลงทุนนี้ นอกจากตั้งเป้าหมายเพื่อเพิ่มแหล่งผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานลมแล้ว ยังมุ่งจะผลักดันให้เกาะเผิงหูเป็นแหล่งท่องเที่ยวนำร่องการรักษาสิ่งแวดล้อม (low-carbon-footprint island) ตามแผนนโยบายสีเขียวให้ยั่งยืนต่อไปอีกด้วย

     โปรดติดตาม รู้ลึกพลังงานสีเขียวของไต้หวัน (ตอนจบ)