"Smart Cities" คือ เมืองอัจฉริยะที่ออกแบบโดย 3 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ 1) การพัฒนารูปแบบและโครงสร้างของเมือง ที่สอดรับกับแนวคิดของเมืองอัจฉริยะ 2) การส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม และ 3) การส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทน โดยไต้หวันได้ให้ความสำคัญด้านการพัฒนา Smart Cities เป็นอย่างมาก โดยได้มีการจัดการสัมมนาและการประชุมเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลอย่างต่อเนื่อง   (ขอขอบคุณข้อมูลจากเว็บไซต์ : www.thailandsmartcities.com)

     เมื่อวันที่ 28-29 มีนาคม 2561 Taiwan Institute of Economic Research (TIER) ได้จัดงานสัมมนาระดับนานาชาติ  The 32nd Pacific Economic Community Seminar ในหัวข้อ "Smart Cities and Trade" ณ Sheraton Grand  Taipei Hotel ไทเป โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ในด้านการพัฒนาเมืองตามแนวคิดของเมืองอัจฉริยะและการค้าปัจจุบัน รวมถึงด้านการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจโลก

     ในช่วงการพิธีเปิดงานฯ นาย Michael P. Y. Hsu, Chinese Taipei APEC Senior Official กล่าวว่า "ไต้หวันได้มีการผลักดันโครงการต่าง ๆ ที่สอดคล้องกับ Smart Cities อย่างต่อเนื่องในเมืองต่าง ๆ อาทิ ไทเป เจียอี้ ไถจง เถาหยวน เป็นต้น โดยหากต้องการสร้าง Smart Cities Innovation ให้สำเร็จตามเป้าหมายการแลกเปลี่ยนข้อมูลและความรู้เป็นสิ่งสำคัญอีกประการหนึ่ง เพื่อให้ทุกฝ่ายได้ก้าวไปพร้อมกัน ตามสโลแกน No one left behind "
     นอกจากนี้ ในช่วงพิธีเปิดดังกล่าว นาย Pascal Lamy, Chairman, France Pacific Territories National Committee for Pacific Economic Cooperation (FPTPEC) ยังกล่าวเสริมอีกว่า "การประชุม Pacific Economic Community Seminar นี้ เคยจัดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว โดยมีจุดประสงค์เพื่อผลักดันความสัมพันธ์ ด้านเศรษฐกิจและการค้าต่าง ๆ โดยในครั้งนี้จัดงานประชุมฯ มีจุดประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและให้ความรู้ด้านธุรกิจและการพัฒนานวัตกรรมเพื่อนำไปปรับใช้ตามแนวทางการส่งเสริม Smart City ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันเศรษฐกิจให้ยั่งยืนในอนาคต"

     ทั้งนี้ ในการสัมมนาฯ ได้มีการเชิญวิทยากรผู้มีประสบการณ์มาบรรยายในหัวข้อต่าง ๆ อาทิ

            1. หัวข้อ ผลกระทบจากเศรษฐกิจหมุนเวียนตามแนวคิดและการวางแผนเพื่อพัฒนาSmart Cities (Impact of circular economy in concept and planning for smart cities) บรรยายโดย นาย Chien-Fu Lin, Chairman, Chinese Taipei Pacific Economic Cooperation Committee (CTPECC) :
            "ปัจจุบันไต้หวันกำลังพัฒนาเมืองเถาหยวนให้กลายเป็น Smart City โดยได้ตั้งเป้าหมาย 3 ประการ ได้แก่

            1. Smart Governance : ระบบอัจฉริยะในด้านการดูแลควบคุมอัตโนมัติ คมนาคมและความปลอดภัย

            2. Smart Living : การใช้ชีวิตและการศึกษา การท่องเที่ยว และการแพทย์

            3. Smart Industry : การสร้างสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน (Sustainable Environment) และการพัฒนาอุตสาหกรรม (Industrial Development)

            ทั้งนี้ เมืองเถาหยวนอยู่ระหว่างดำเนินการสร้าง Smart Building ต่าง ๆ อาทิ Cultural Museum,  Public Housing, Retail Market เป็นต้น รวมทั้งรัฐบาลไต้หวันยังได้สนับสนุนให้ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ได้มีพื้นที่ในการแสดงผลงานในด้านนวัตกรรมตามแนวทาง 'Youth Innovative Entrepreneurship' อีกด้วย"

            2. หัวข้อ การเพิ่มประสิทธิภาพด้านการบริการในเมืองด้วยนวัตกรรมดิจิตอล (Optimizing urban services through digital innovation) บรรยายโดย นาย Nicolas Renard, Advisor to the Chairman and CEO, Veolia :
            "ทักษะด้านนวัตกรรมดิจิทัล (Digital Innovation) เป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้ Smart Cities ประสบความสำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถนำนวัตกรรมดิจิทัลมาส่งเสริมการจัดการเมืองในด้านต่าง ๆ อาทิ การส่งเสริมการบริการเกี่ยวกับน้ำ (Water Service) การส่งเสริมการบริการด้านพลังงาน (Energy Services) เป็นต้น"

            3. หัวข้อ What is smart, what is circular? บรรยายโดย นางสาว Jessica Yom, Regional Government  Affairs – Policies (ASEAN, Pacific & S Korea), Rolls-Royce Singapore Pte. Ltd. :
            " การสร้างสิ่งแวดล้อมให้น่าอยู่มากยิ่งขึ้น สามารถเริ่มจากการให้ผู้คนที่พำนักอาศัยในพื้นที่ ร่วมมือกัน แสดงความคิดเห็นและความคิดสร้างสรรค์ต่าง ๆ  (Smart city needs Smart people) เพื่อปรับปรุงและพัฒนาบ้านเมืองให้ก้าวสู่การเป็น Smart city อย่างยั่งยืน โดยเริ่มจากสิ่งเล็ก ๆ เช่น Internet of Things โดยหากประสบความสำเร็จจะลดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ มากมาย อาทิ ภาวะรถติด มลภาวะที่เป็นพิษ การกำจัดขยะ เป็นต้น  
            โดย Smart City Concepts ได้ตั้งเป้าหมาย 8 ประการ ได้แก่ Smart Governance and Smart Education, Smart Healthcare, Smart Building, Smart Mobility, Smart Infrastructure, Smart Technology, Smart Energy และ Smart Citizen "

            นอกจากนี้นางสาว Jessica ยังกล่าวเสริมอีกว่า "สิ่งสำคัญอีกประการที่ต้องตระหนักคือ การแลกเปลี่ยนข้อมูลและความรู้ด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ (Circular Economy, Sharing Economy)"