สมาคมหอการค้าแห่งชาติไต้หวัน (NIECT) จัดการประชุมครั้งแรกเพื่อแถลงทิศทางการค้า ด้านการนำเข้า-ส่งออกระหว่างประเทศ

สมาคมหอการค้าแห่งชาติไต้หวัน (NIECT) จัดการประชุมครั้งแรกเพื่อแถลงทิศทางการค้า ด้านการนำเข้า-ส่งออกระหว่างประเทศ

วันที่นำเข้าข้อมูล 22 ม.ค. 2562

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 27 พ.ย. 2565

| 1,618 view

  

              เมื่อวันที่ 14 ม.ค. 2562 ไต้หวันได้จัดการประชุมแถลงทิศทางการค้าของสมาคมหอการค้าแห่งชาติของไต้หวัน ด้านการนำเข้า-ส่งออก National Importers and Exporters Chamber of Commerce of Taiwan (NIECT) ครั้งที่ 1 รุ่นที่ 1 ณ Lilo Convention Centre เมืองไถจง สมาคม NIECT ได้ก่อตั้งขึ้นในเดือนมกราคม 2562 การประชุมครั้งนี้เป็นครั้งแรกในการรวมตัวกันของ 6 เขตสมาคมด้านการนำเข้า-ส่งออกทางการค้าของไต้หวัน ซึ่งประกอบด้วย 2 เขต ในเมืองไถจงที่อยู่ในภายใต้การดูแลของ Taichung Importers and Exporters Chamber of Commerce of Taiwan, Taoyuan Importers and Exporters Chamber of Commerce of Taiwan, 2 เขตในเมืองไถจงที่อยู่ในภายใต้การดูแลของ Tainan Importers and Exporters Chamber of Commerce of Taiwan และ Kaohsiung Importers and Exporters Chamber of Commerce of Taiwan

              การประชุมฯ ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อแถลงข้อมูลและทิศทางที่น่าจับตามองด้านการค้า การนำเข้า-ส่งออกระหว่างประเทศ โดยเน้นให้ความสำคัญ 6 ด้าน ได้แก่ 1) การผลักดันทางการค้าทั้งในไต้หวันและระหว่างประเทศ 2) ความร่วมมือและการประสานงานของบุคลากรที่เกี่ยวข้อง 3) การรวบรวมข้อมูลเพื่อเสนอแนะนโยบายแก่รัฐบาลไต้หวัน 4) การส่งเสริมการพัฒนาการค้าของไต้หวัน 5) การสนับสนุนการนำเข้า-ส่งออกของไต้หวันให้ก้าวสู่การสร้างความร่วมมือทางด้านการค้าระหว่างประเทศในระดับสากล และ 6) การสนับสนุนนโยบายการค้าของรัฐบาลไต้หวันที่ต้องการเพิ่มสมาชิกกลุ่มการค้าระหว่างประเทศ

              โดยทางสมาคมฯ หวังว่าในอนาคตจะมีนโยบายการทำงานที่สามารถแก้ไขอุปสรรคทางเศรษฐกิจการค้าด้านธุรกิจการนำเข้า-ส่งออกทั้งในและต่างระประเทศต่อไป

               ในช่วงการเปิดประชุม นาย Joseph Hsu ประธานสมาคมฯ รุ่นที่ 1 กล่าวว่า

               “คาดว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นหนึ่งในการสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนกับทางรัฐบาลไต้หวัน โดยสมาคม NIECT จะมีผู้เชี่ยวชาญด้านการค้ามาคอยให้คำแนะนำและให้ข้อมูลเพื่อการหาโอกาสเปิดตลาดทางการค้าทั้งในและต่างประเทศแก่ผู้ประกอบการที่สนใจ ซึ่งหวังว่าในอนาคตจะมีจำนวนสมาชิกเข้าร่วมสมาคมมากยิ่งขึ้น”

                นอกจากนี้ นาย Joseph ได้กล่าวรายงานสถานการณ์เศรษฐกิจการค้าในปัจจุบันว่า

                “การค้าระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกาส่งผลกระทบต่อการค้าทั่วโลกและต่อประเทศสมาชิกในกลุ่ม Comprehensive and Progressive Agreement for Trans-Pacific Partnership (CPTPP) นอกจากนี้ในช่วงปลายปี 2561 ยังส่งผลกระทบต่อไต้หวันและอีก 11 ประเทศ ได้แก่ แคนาดา เม็กซิโก เปรู ชิลี ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เวียดนาม สิงคโปร์ บรูไนและมาเลเซีย อีกด้วย

                ช่วงก่อนการเจรจาด้านภาษีศุลกากรระหว่างจีนและอเมริกาจะเสร็จสิ้น CPTPP มุ่งมั่นที่จะผลักดันให้เกิด เขตการค้าเสรี (Free trade zone) ขึ้น โดยคาดว่าในอนาคตจะมีการแก้ไขรายการภาษีสินค้าระหว่างประเทศสมาชิกกว่าร้อยละ 95 จากการสรุปอัตราภาษีสินค้าทั้งหมดร้อยละ 98 ทั้งนี้ ยังมีข้อตกลงในการลดปัญหาที่จะพบระหว่างการลงทุนใหม่ ๆ เปิดโอกาสให้กับผู้ประกอบการขนาดย่อม พร้อมผลักดันโอกาสทางการค้าด้านธุรกิจการธนาคารและ E-commerce รวมถึงส่งเสริมความร่วมมือด้านธุรกิจระหว่างประเทศสมาชิกในเอเชียอีกด้วย”

                 นอกจากนี้ นาย Walter M. S. Yeh, President & CEO of Taiwan External Trade Development Council (TAITRA) กล่าวเสริมว่า

                 “กรมศุลกากรของไต้หวันและสมาคมหอการค้าด้านการนำเข้า-ส่งออก (Importers and Exporters Chamber of Commerce) ได้ส่งผู้แทนไปยังจุดศุลกากรทั่วโลกจำนวนกว่า 200 คน ซึ่งเป็นการสนับสนุนการค้าระหว่างประเทศของไต้หวันเป็นอย่างมาก

                 นอกจากนี้ Taipei Nangang Exhibition Center, Hall 2 ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของ TAITRA กำลังจะเปิดอย่างเป็นทางการในเวลาอันใกล้นี้ โดยในเดือนมีนาคม 2562 TAITRA มีกำหนดจัดนิทรรศการ Taipei Int'l Machine Tool Show (TIMTOS) และพร้อมที่จะรองรับการจัดนิทรรศการต่าง ๆ ระดับโลก”

                 ในอนาคตไต้หวันมุ่งมั่นที่จะผลักดันการค้าระหว่างประเทศและก้าวไปสู่การค้าระดับสากล โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัจจุบันไต้หวันมีการผลักดันนโยบาย New Southbound Policy ซึ่งจะเป็นหนึ่งในนโยบายหลักในการสนับสนุนการค้าระหว่างไต้หวันและเอเชีย โดยปัจจุบันหอการค้าไทยได้มีความร่วมมือกับ Importer & Exporters Association of Taipei (IEAT) ไต้หวันแล้ว และคาดว่าจะมีความร่วมมือกันในด้านต่าง ๆ ต่อไป