ไต้หวันมีแนวคิด City mining หรือการนำโลหะต่าง ๆ จากตึกเก่าที่พังทลาย ชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โทรศัพท์เคลื่อนที่เครื่องเก่า และที่ชาร์จแบตโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ไม่ใช้แล้ว มาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ โดยไต้หวันเชื่อว่าการรีไซเคิลสามารถเพิ่มมูลค่าขยะให้กลายเป็นสินค้าด้านอุตสาหกรรมที่มีความสร้างสรรค์ และก่อให้เกิดระบบการรีไซเคิลและการนำทรัพยากรกลับมาใช้ใหม่ได้อย่างสมบูรณ์

                    สำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมไต้หวัน (Environment Protection Administration: EPA) เริ่มต้นรับโทรศัพท์เคลื่อนที่เพื่อนำกลับมารีไซเคิลผ่านทางรถเก็บขยะ ร้านสะดวกซื้อ และร้านให้บริการโทรศัพท์ ตั้งแต่ปี 2549 โดยไต้หวันสามารถสกัดอลูมิเนียมและทองแดงจากโทรศัพท์ และสกัดทอง พาลาเดียม เงิน และดีบุกจากชิ้นส่วนเล็ก ๆ

                    ระหว่างปี 2559-2562 รัฐได้ดำเนินการรณรงค์โฆษณาส่งเสริมการรีไซเคิลโทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นเวลา 3 ปี ผลจากการรณรงค์และสนับสนุนให้ประชาชนนำโทรศัพท์เคลื่อนที่มารีไซเคิลของ EPA สร้างรายได้ให้ไต้หวันกว่า 440 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน (ประมาณ 440 ล้านบาท) สกัดทองได้กว่า 250 กรัม และเงินอีกกว่า 1,458 กิโลกรัม จำนวนโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่นำกลับมารีไซเคิลเพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 5 ล้านเครื่องในปี 2559 และ 2560 และเพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 6.26 ล้านเครื่องในปี 2561

                    ข้อมูลสถิติจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือ IMF ระบุว่า ชาวอเมริกันเปลี่ยนโทรศัพท์เคลื่อนที่ใหม่เฉลี่ยทุก 21.1 เดือน ชาวอังกฤษเปลี่ยนโทรศัพท์เคลื่อนที่ใหม่ทุก 22.4 เดือน แต่จะยังเก็บโทรศัพท์เคลื่อนที่เครื่องเก่าไว้สำรองใช้ สำหรับคนไต้หวัน ถึงแม้จะมีจำนวนโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่นำมารีไซเคิลเพิ่มขึ้น แต่จากผลสำรวจของ Chung-Hua Institution for Economic Research ระบุว่า คนไต้หวันกว่าร้อยละ 60.7 ยังคงเก็บโทรศัพท์เก่าไว้สำรองใช้ เนื่องจากเหตุผลความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัวและรูปถ่ายที่เก็บไว้ ขณะที่ร้อยละ 19.8 จะขายหรือให้โทรศัพท์เครื่องเก่าให้คนอื่นเมื่อมีเครื่องใหม่ และมีเพียงร้อยละ 16.7 เท่านั้นที่จะนำโทรศัพท์เคลื่อนที่ไปรีไซเคิล

ข้อมูลจาก
http://www.taipeitimes.com/…/ta…/print/2019/05/27/2003715862
https://english.ey.gov.tw/News_Content2.aspx…

รูปภาพจาก
https://www.pexels.com/…/scrap-metal-trash-litter-scrapyar…/