รัฐบาลไต้หวัน! ยังไม่หยุดทุ่มทุนพัฒนาอุตสาหกรรมพลังงานลม

รัฐบาลไต้หวัน! ยังไม่หยุดทุ่มทุนพัฒนาอุตสาหกรรมพลังงานลม

วันที่นำเข้าข้อมูล 19 ก.ค. 2562

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 29 พ.ย. 2565

| 1,238 view

             International Energy Agency เผยแพร่ใน World Energy Outlook 2018 ว่าพลังงานลมมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและคาดว่าทั่วโลกจะสามารถผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมได้ถึง 1,700 กิกะวัตต์ในปี 2583 หรือคิดเป็นร้อยละ 14 ของพลังงานทั้งหมดที่สร้างขึ้นทั่วโลกทำให้บริเวณนอกชายฝั่งกำลังเป็นจุดสนใจของทุกประเทศทั่วโลก

             ไต้หวันเป็นหนึ่งในผู้นำในการพัฒนาพลังงานลมนอกชายฝั่งของเอเชีย เนื่องจากช่วงหลายปีที่ผ่านมารัฐบาลไต้หวันได้ให้ความสำคัญกับเรื่องพลังงานสีเขียน (Green Energy) อย่างจริงจังข้อมูลจากโครงการ Thousand Wind Turbines บนเว็บไซต์ www.twtpo.org.tw ที่จัดตั้งโดย กระทรวงพลังงานไต้หวันระบุว่า ปัจจุบันไต้หวันมีแหล่งผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานลมทั้งบนบกและนอกชายฝั่งรวมทั้งหมด 30 แห่ง เป็นกังหันเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานลมบนบกรวมทั้งสิ้น 353 ตัว กังหันเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้านอกชายฝั่งรวมทั้งสิ้น 2ตัว ซึ่งผลิตกระแสไฟฟ้ารวมทั้งสิ้นแล้วกว่า 1,722,459 เมกะวัตต์ จึงคาดการณ์ว่าไต้หวันกำลังจะกลายเป็นตลาดนอกชายฝั่งที่ใหญ่เป็นอันดับสองในเอเชียรองจากจีนและเป็นศูนย์กลางการส่งออกอุปกรณ์กังหันที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคนี้ในไม่ช้า

                                                                               สถิติพลังงานลมจากโครงการ Thousand Wind Turbines (www.twtpo.org.tw)

                                                  

               นอกจากนี้ ไต้หวันยังได้รับการสนับสนุนและการลงทุนจากนานาชาติ อาทิ ข้อมูลจากสำนักข่าว CNA (Commerce News Agency) ระบุว่า บริษัทการท่าเรือนานาชาติไต้หวัน (Taiwan International Ports Corporation) ได้ลงนามบันทึกข้อตกลง MOU ว่าด้วยความร่วมมือทางการจัดสร้างกังหันลมนอกชายฝั่ง (Offshore wind power) กับสำนักงานตัวแทนอังกฤษประจำไต้หวันในวันที่ 13 มี.ค. 2562 โดยปัจจุบันอังกฤษเป็นเจ้าของฟาร์มกังหันลมนอกชายฝั่งที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และ Catherine Nettletonผู้แทนจาก British Office ในไทเป ยังกล่าวว่า รัฐบาลอังกฤษประกาศที่จะทุ่มทรัพยากรของรัฐในด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีมากขึ้น เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมนี้ในระยะยาวอย่างมีเสถียรภาพ ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงว่าจะสามารถแบ่งปันเทคนิค ประสบการณ์ รวมทั้งทรัพยากรในการพัฒนากังหันลมให้กับบริษัทการท่าเรือนานาชาติไต้หวันและหุ้นส่วนอื่นๆ ด้านพลังงานลมนอกชายฝั่งได้

                ล่าสุด เมื่อวันที่ 2 ก.ค. 2562 CRS News รายงานว่า บริษัท Orsted หนึ่งในผู้นําด้านการผลิตพลังงานทดแทนที่ใหญ่ที่สุดของโลกได้รับสินเชื่อกว่า 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากธนาคาร 15 แห่งทั่วโลกเพื่อมาลงทุนสร้างและพัฒนาฟาร์มกังหันลมในทะเลแห่งแรกของไต้หวัน นอกจากนี้ บริษัท Wpd Taiwan Energy Co.,Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ Wdp AG บริษัทพัฒนาและจัดการฟาร์มกังหันลมระดับโลกในเยอรมนี ยังกล่าวถึงโครงการ Yunlin Offshore Wind Project ว่า บริษัทมีแผนการที่จะสร้างกังหันลมจำนวน 80 แห่งบริเวณทางตอนใต้ของไต้หวัน ห่างจากมณฑลหยุนหลินออกมาประมาณ 8 กิโลเมตร ซึ่งจะเสร็จสมบูรณ์ภายในสิ้นปี 2564 โดยจากการประเมินจะต้องใช้งบประมาณการลงทุนรวม 94 พันล้านเหรียญไต้หวันดอลลาร์ หรือ 3.03 พันล้านเหรียญสหรัฐ

                จากการสนับสนุนจากทั้งภาครัฐและเอกชนทั้งด้านทรัพยากรและเงินลงทุนในการพัฒนาพลังงานทดแทนซึ่งรวมถึงพลังงานลม ทำให้ไต้หวันตั้งเป้าว่าภายในปี 2568 จะสามารถติดตั้งอุปกรณ์ผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่งที่มีกำลังผลิตได้ 5.5 กิกะวัตต์ต่อปีและจะพัฒนาให้มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นประมาณ 1กิกะวัตต์ ต่อปี ในทุก ๆ ปีถัดไป

                ในปีนี้ Taiwan External Trade Development Council (TAITRA) หรือ สภาพัฒนาการค้าระหว่างประเทศ และสมาคมเซมิคอนดักเตอร์นานาชาติ (SEMI) ได้ร่วมกันจัดงาน Wind Energy Taiwan 2019 ในวันที่ 16 - 18 ต.ค.2562 ณ Taipei Nangang Exhibition Center, Hall 1 ไทเป ไต้หวัน ผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.energytaiwanforum.org

รูปจาก Newsroom