ไต้หวันถือเป็นแบบอย่างในด้านการแสดงออกถึงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมที่มีศักยภาพระดับโลก โดยรัฐบาลไต้หวันมีมาตรการทางกฎหมายอย่างเคร่งครัดในเรื่องการรณรงค์งดใช้ถุงพลาสติกซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินนโยบาย ”Green Policy” ที่ตั้งเป้าหมายลดปริมาณขยะพลาสติกให้กลายเป็นศูนย์ภายในปี ค.ศ.2030

     นโยบายจำกัดการใช้ถุงพลาสติกครั้งแรกของไต้หวันเริ่มขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 2002ได้ดำเนินการมาจนถึงปัจจุบันเป็นระยะเวลา16 ปี เพื่อดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมภายใต้ความรับผิดชอบของสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมไต้หวัน (Environmental Protection Administration หรือ EPA)

     สำนักข่าว Taiwan News รายงานว่า “ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ค.ศ.2018 รัฐบาลไต้หวันได้มีมาตรการจำกัดการใช้ถุงพลาสติกตามร้านค้าต่าง ๆในธุรกิจ7 ประเภท ได้แก่ ร้านขายเครื่องสำอาง ร้านขายยา ร้านขายอุปกรณ์ทางการแพทย์ ร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์สื่อสาร ร้านหนังสือ และเครื่องเขียน ร้านซักอบรีด ร้านขายเครื่องดื่ม และร้านเบเกอรี่ โดยงดให้ถุงพลาสติกแก่ลูกค้าผู้ที่ฝ่าฝืนมีโทษถูกปรับเป็นเงิน1,200-6,000 ดอลลาร์ไต้หวัน ซึ่งสำนักป้องกันสิ่งแวดล้อมสิ่งแวดล้อมไต้หวัน (EPA) คาดว่าจะลดปริมาณถุงพลาสติกลง ได้ประมาณ 20 ล้านใบต่อปีหากลูกค้าต้องการซื้อถุงพลาสติกเพิ่มจะต้องชำระเงินจำนวน 1-2ดอลลาร์ไต้หวันต่อ 1ถุง โดยสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมไต้หวันตั้งเป้าหมายลดจำนวน การใช้ถุงพลาสติกลงเหลือ 100 ใบภายในปี ค.ศ.2025 และเหลือ 0 ใบ ภายในปี ค.ศ.2030

     ในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2018 ที่ผ่านมา นาย Lee Ying-Yuan รัฐมนตรีสำนักงานปกป้อง  สิ่งแวดล้อมไต้หวันรายงานว่า “แผนการลดขยะพลาสติกฉบับใหม่ ที่มีจุดประสงค์เพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤติขยะในทะเล โดยร่วมมือกับกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมหลายกลุ่มก่อตั้งโครงการ "Sea Waste  Management Platform"

     ทั้งนี้เพื่อเป็นการลดต้นเหตุที่ก่อให้เกิดวิกฤตมลภาวะและเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมด้านมลภาวะทางน้ำ ไต้หวันมุ่งที่จะงดใช้พลาสติกที่ใช้แล้วทิ้งหลายประเภท ซึ่งแบ่งการดำเนินการเป็น 3ระยะ ดังนี้

ปี ค.ศ.2020ห้ามร้านค้าทุกร้านให้ถุงแก่ลูกค้า
ปี ค.ศ. 2025จะปรับค่าถุงพลาสติกให้มีราคาสูงขึ้น
ปี ค.ศ.2030ห้ามใช้และจำหน่ายอย่างเด็ดขาด

ขอขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.taiwannews.com.tw/en/news/3325110